
จันทนาใบเล็ก
ชื่อพื้นเมือง เข็มป่า (นราธิวาส) ยาโรง (มลายู-นราธิวาส)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Tarenna wallichii
ชื่อวงศ์ RUBIACEAE
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น เป็นไม้พุ่ม สูง 2-5 เมตร กิ่งอ่อนเป็นเหลี่ยมสี่มุม มีขนสั้น เมื่อแห้งสีน้ำตาล
แดง
ใบ เดี่ยว เรียงตรงข้ามกัน แผ่นใบรูปรีแกมรูปขอบขนาน ยาว 6-15 ซม. กว้าง
3-7 ซม. ผิวใบเกลี้ยงทั้งสองด้าน ใบแห้งด้านบนสีน้ำตาลคล้ำแกมเขียว
ด้านล่างสีน้ำตาลแดง ปลายเป็นติ่งแหลมถึงเรียวแหลม โคนใบสอบ เส้น
แขนงใบ 8-10 คู่ ก้านใบยาว 1-2 ซม. หูใบรูปสมเหลี่ยมฐานแคบ ปลาย
เรียวแหลม ยาว 0.5-1 ซม.
ดอก 5 กลีบ สีขาวนวล โคนกลีบเชื่อมติดกันเป็นกรวย ออกเป็นช่อกระจะแยก
แขนงตามปลายกิ่ง ยาว 3-4 ซม.
ผล แก่สีแดง รูปกลมรี เส้นผ่าศูนย์กลาง 5-8 มม. มี 1-2 เมล็ด
ลักษณะทางนิเวศวิทยา
ขึ้นในที่ลุ่มตายชายน้ำและขอบพรุ มีเขตการกระจายพันธุ์ทางภาคใต้ของ
ประเทศไทยในต่างประเทศพบที่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ออกดอก ระหว่าง
เดือนเกือบตลอดปี
ชื่อพื้นเมือง เข็มป่า (นราธิวาส) ยาโรง (มลายู-นราธิวาส)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Tarenna wallichii
ชื่อวงศ์ RUBIACEAE
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น เป็นไม้พุ่ม สูง 2-5 เมตร กิ่งอ่อนเป็นเหลี่ยมสี่มุม มีขนสั้น เมื่อแห้งสีน้ำตาล
แดง
ใบ เดี่ยว เรียงตรงข้ามกัน แผ่นใบรูปรีแกมรูปขอบขนาน ยาว 6-15 ซม. กว้าง
3-7 ซม. ผิวใบเกลี้ยงทั้งสองด้าน ใบแห้งด้านบนสีน้ำตาลคล้ำแกมเขียว
ด้านล่างสีน้ำตาลแดง ปลายเป็นติ่งแหลมถึงเรียวแหลม โคนใบสอบ เส้น
แขนงใบ 8-10 คู่ ก้านใบยาว 1-2 ซม. หูใบรูปสมเหลี่ยมฐานแคบ ปลาย
เรียวแหลม ยาว 0.5-1 ซม.
ดอก 5 กลีบ สีขาวนวล โคนกลีบเชื่อมติดกันเป็นกรวย ออกเป็นช่อกระจะแยก
แขนงตามปลายกิ่ง ยาว 3-4 ซม.
ผล แก่สีแดง รูปกลมรี เส้นผ่าศูนย์กลาง 5-8 มม. มี 1-2 เมล็ด
ลักษณะทางนิเวศวิทยา
ขึ้นในที่ลุ่มตายชายน้ำและขอบพรุ มีเขตการกระจายพันธุ์ทางภาคใต้ของ
ประเทศไทยในต่างประเทศพบที่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ออกดอก ระหว่าง
เดือนเกือบตลอดปี
